เป็นเรื่องเล่าที่เล่าสืบกันมา สมัยก่อนโน้นมีนายพรานสองพี่น้อง ไปนั่งห้าง(ทำห้างอยู่บนตั้นไม้สูงๆ เพื่อไปยิงสัตว์ป่า)เที่ยวป่า พอไปถึงก็ไปทำห้าง เมื่อทำห้างเสร็จ พอโพล้เพล้ก็ขึ้นไปนั่งห้าง มีหญิงสาวคนหนึ่ง เดินหลงทางมา เดินมาก็เห็นกองไฟ (ก่อกองไฟไว้ใต้ห้างเพื่อป้องกันสัตว์) รู้ว่ามีคนแน่ พอมาเจอนายพรานสองพี่น้องก็ขอให้ช่วย เพราะว่าถ้าอยู่ข้างล่างอาจจะโดนเสือสมิง หรือเสือ โดนสัตว์ร้ายทำร้าย เพราะว่ามาคนเดียว เมื่อก่อนป่าเป็นป่าดงดิบ ก็นายพรานสองพี่น้องที่ถูกสั่งสอนมาจากคนเฒ่าคนแก่ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะว่าเสือสมิง มันแปลงร่างได้ บางทีแปลงร่างเป็นคนทางบ้าน ลูกเมีย ญาติพี่น้อง ไปหา ถ้าลงมามันก็จะขบหัวแล้วก็กิน ถะนี้นายพรานสองพี่น้องก็ไม่เชื่อว่าเป็นคนก็ลองให้หญิงสาวก่อไฟ “อ้าว…ไหนลองก่อไฟดูซิ” นายพรานโยนไฟให้ หญิงสาวก็ก่อไฟได้ ทำอะไรก็ทำได้ เหมือนคน แต่นายพรานสองพี่น้องคุยกัน ก็ยังไม่ไว้ใจหญิงสาว คิดว่าถ้าเจอเสือสมิงที่มีวิชาแก่กล้ามากอาจจะทำได้ ก็เลยบอกหญิงสาวว่า “ไม่ให้เข้ามา ถ้าเข้ามาถึงโคนต้นไม้ที่อยู่ก็จะยิง” หญิงสาวก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน เข้าไปใตต้นไม้ก็ตาย ถ้ายังอยู่ข้างนอกก็ตาย ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปใตต้ต้นไม้ เมื่อนายพรานสองพี่น้องเห็นหญิงสาวเดินเข้ามา ก็เลยตัดสินใจยิง เมื่อตอนเช้านายพรานทั้งสองลงมาจากต้นไม้พบว่า หญิงสาวที่ตนยิงเมื่อคืนไม่ใช่เสือสมิง แต่เป็นหญิงสาวนอนตายอยู่ที่ใต้ต้นไม้ (ถ้าเป็นเสือสมิง เมื่อโดนยิงจะกลายร่างเป็นเสือ) เพราะว่าอาคมหมดแล้ว ก็เลยมาทำพิธีฝังศพ แล้วตั้งชื่อตรงนี้ว่า “โคกสาวหลง” แล้วเพี้ยนมาเป็น “โคกสลุง” เพราะว่าที่แถวนี้เป็นที่โคก ที่ดอน น้ำท่วมไม่ถึง ต่อมาก็เลยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน คนแก่บางคนเล่าว่า เมื่อนายพรานพบว่าเป็นศพของหญิงสาวจึงนำร่างของหญิงสาวเข้ามาในหมู่บ้าน แล้วแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่ามีหญิงสาวหลงทางมา ตนนึกว่าเป็นเสือสมิงจึงยิงจนตาย พบว่าเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านที่หลงทางมา ชาวบ้านจึงนำศพมาทำพิธี ทำศาลเพียงตา และตั้งชื่อว่า “โคกสาวหลง” และต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “โคกสลุง”

   “โอ้แม่หญิงสิ้นลมไปพลัน  โคกสลุงจึงมีตำนาน”

เพลง “ตำนานโคกสาวหลง”              แต่งโดย ครูอัญชลี แก้วชัย
บ้านเอ๋ยบ้านโคกสลุง  นายพรานหมายมุ่งเอาชีวิตสาว
กล่าวขานเป็นเรื่องราว ว่าสาวเจ้าเป็นเสือสมิง
เล็งปืนเเล้วจ้องยิง เล็งปืนแล้วจ้องยิง
โอ้ แม่หญิงสิ้นลมไปพลัน โคกสลุงจึงมีตำนาน   คนโบราณเรียกสาวหลงไง
โคกสาวหลง จึงค่อยเปลี่ยนไป     เรียกชื่อใหม่ว่าโคกสลุงเอย